Bojan Djordjic
“พังเพราะทัศนคติ” ต่อให้เป็นแฟนแมนฯยูไนเต็ดเข้าเส้น แต่เชื่อว่าอาจมีบางคนที่หลงลืมชื่อของ Bojan Djordjic ไปบ้างแล้ว
Bojan เกิดที่เบลเกรดเมืองหลวงของเซอร์เบียในปัจจุบัน แต่อายุ 10 ขวบครอบครัวพาหนีสงครามกลางเมืองที่สุดโหดไปใช้ชีวิตอยู่ในสวีเดน เขาจึงได้พาสสปอร์ตและถือสัญชาติสวีดิช
เส้นทางลูกหนังเริ่มต้นกับบรอมมาพอจคาร์น่า สโมสรเล็กๆในลีกของสวีเดน
จากนั้นฉายแววเด่นเข้าตาแมวมองแมนฯยูไนเต็ด จึงถูกดึงมาในปี 1999 โดยอายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น
น่าเหลือเชื่อ Bojan แทบไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวอะไรเลย ฤดูกาล 1999/2000 ฟอร์มโดดเด่นอย่างมากจนคว้ารางวัล Jimmy Murphy Young Player of the Year หรือดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี
รางวัลดังกล่าว Ryan Giggs เคยได้ครองสองครั้ง Paul Scholes และ Philip Neville คว้ามาคนละครั้ง ฉะนั้นจึง บ่งบอกสถานะไม่ธรรมดา
เท้าซ้ายอันฉกาจ ความปราดเปรียวว่องไว ช่วยสนับสนุนให้ Bojan เป็นปีกซ้ายที่น่าจับตาเหลือเกิน
ในทีมสำรองเขาสามารถฉีกแนวรับฝั่งตรงข้ามสบายๆ แล้วในการซ้อมกับทีมชุดใหญ่ก็สร้างความน่าประมับใจได้มาก
Bojan จึงถูกนำไปเปรียบกับ กิ๊กส์ ต้องเดินตามรอย กลายเป็นทายยาทสืบทอดความสำเร็จในยุคต่อมา
แต่เอาเข้าจริงมันยากที่จะเบียด กิ๊กซี่ เลยต้องอดทนอยู่ในสถานะเดิมต่อไป ก่อนความไม่พอใจจะระเบิดในเวลาต่อมา
ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ได้แค่ 1-2 เกมก็ต้องส่งไปให้ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ , เอจีเอฟ และ เร้ดสตาร์ เบลเกรดยืมใช้งานตั้งแต่ปี 2001-04 โดยที่ได้ร่วมทีมกับ เนมานย่า วิชดิช ตอนเล่นให้เร้ดสตาร์ด้วย
เมื่อต้องกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง Bojan แสดงให้เห็นถึงปัยหาเกี่ยวกับทัศนคติ ดูไม่ตั้งใจเลย ไม่แคร์ใครอีกต่างหาก โดนวิจารณ์ว่าขี้เกียจเกินไป ขาดความกระตือรือร้น
เคสที่แย่สุดก็คือเดินออกจากสนามซ้อมดื้อๆ ทั้งที่การฝึกซ้อมยังไม่เสร็จสิ้นเลยด้วยซ้ำ
ผ่านไป 4 ปีครึ่งไม่มีสัญญาณว่าอนาคตจะคืบหน้า ยอร์ดิช เดินไปบอก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพื่อขอย้ายทีม ก่อนโดนปล่อยให้กล่สโกว์ เรนเจอร์สแบบไม่มีค่าตัวในมกราคม 2005
เขาอยู่ที่สก็อตแลนด์แค่ 6 เดือน ได้ลงสนามแค่ 5 เกม สะท้อนความล้มเหลว ก่อนจะโยกกลับมาอังกฤษมีพลีมัธอ้าแขนต้อนรับ ได้ร่วมงานกับ เอียน ฮอลโลเวย์ ผู้จัดการทีม
สองปีที่นั่น ดูจะได้น้ำ ได้เนื้อที่สุดแล้ว ลงสนามไปเกือบ 50 นัด ยิงไปทั้งสิ้น 4 ประตู แต่ทัศนคติยังแย่เหมือนเดิม
ในเกมอุ่นเครื่องนัดหนึ่ง เมื่อถูกเปลี่ยนตัวออก ก็เผ่นกลับบ้านเฉยๆซะอย่างนั้น ไม่ยอมรอให้เกมจบลง เลยโดนปล่อยตัวในปี 2007
Bojan Djordjic ระเห็จกลับไปสวีเดน โดยเซ็นสัญญากับเอไอเค สโมสรชั้นนำก่อนมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ซึ่งตัวเขาเองทำผลงานได้น่าประทับใจ
คลาสบอลของเขาเหนือกว่านักเตะในลีกเดียวกัน นั่นคือจุดที่ยิ่งทำให้ความมั่นใจพุ่งสูงขึ้นมาอีก
ช่วงนั้นเองมัคคาบี้ ไฮฟา ยักษ์ใหญ่อิสราเอลยื่นข้อเสนอที่งดงามมาให้ แต่กลับปฏิเสธเงินก้อนโต ท่ามกลางความแปลกใจใครหลายคน
พอถูกอาการบาดเจ็บก่อกวนจึงย้ายไปเล่นในฮังการีกับวิดีโอตอน ซึ่งก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า
ฮอลโลเวย์ อดีตเจ้านายที่คุมแบล็คพูลเวลานั้น จึงเปิดประตูต้อนรับ แต่เขารับค่าจ้างเพียง 90 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เรียกว่าน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ
มีข่าวว่า จอห์น โอเช ซึ่งเติบโตกันมาในทีมเยาวชนแมนฯยูไนเต็ด ต้องยื่นมือมาช่วยเหลือ เพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่ได้
ชีพจรลงเท้าอีกรอบในปี 2012 ย้ายไปเล่นให้รอยัล อันต์เวิร์ปที่เบลเยี่ยม ก่อนวนมาหาบรอมมาพอจคาร์น่าต้นสังกัดแรกในสวีเดน แล้วมาปิดฉากอาชีพค้าแข้งที่อินเดียกับเชนไน เอฟซี อ่านข่าวกีฬามัน ๆ ได้ที่ Ambbet ขอบคุณครับ
หลังรีไทร์เคยรับงานกุนซือสั้นๆให้เรนเคบี้ ยูไนเต็ด ทีมท้องถิ่นในระดับดิวิชั่น 6 ของสวีเดน
ก่อนหันหลังมาทำงานด้านสื่อ เป็นผู้วิเคราะห์เกมทาง Viasat Sport เคยดึง จอห์น โอเช มาสัมภาษณ์ รวมทั้งมาร่วมงานที่ MUTV อีกต่างหาก
Bojan Djordjic จึงเป็นอีกหนึ่งแข้งของแมนฯยูไนเต็ด ที่หลายคนรู้จักมักคุ้นหรือเห็นฝีเท้าตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่ง ได้แต่บ่นเสียดาย
และเป็นอีกเคสที่ขยี้พรสวรรค์ตัวเอง จากทัศนคติอันย่ำแย่นั่นแหล่ะ