Bundesliga champion
Bundesliga champion ถ้าพูดถึงการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาที่สร้างเซอร์ไพรส์มากที่สุดในรอบ 30 ปีหลังสุดมานี้
ผมเชื่อว่าฤดูกาลมหัศจรรย์ของ ไกเซอร์สเลาเทิร์น ในปี 1997–98 คือโมเมนต์ที่ยืนหนึ่งในความทรงจำของแฟนบอลอย่างแน่นอน
มันคือการคว้าแชมป์ในฐานะน้องใหม่ซึ่งเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาจากลีกา 2 แถมยังเป็นการคว้าแชมป์
โดยอดีตกุนซือของ บาเยิร์น มิวนิค ที่เคยถูกปลดก่อนเกมนัดชิงยูฟ่า คัพ แค่ 4 วันอีกด้วย
เรื่องราวเป็นยังไงมายังไง เรามาย้อนความหลังดักแก่กันอีกสักครั้งครับ
ไกเซอร์สเลาเทิร์น ถือเป็นทีมใหญ่ทีมหนึ่งในบุนเดสลีกาช่วงยุค 90 พวกเขาเคยคว้าแชมป์ลีกเยอรมนีก่อนหน้านั้นมาแล้ว 3 สมัย
คือในปี 1951,1953 และ 1991 เคยคว้ารองแชมป์มาถึง 4 ครั้ง อีกทั้งยังเป็นแชมป์บอลถ้วย 3 ครั้ง ซึ่งในช่วงยุค 90 พวกเขาถือว่าเป็นทีมระดับหัวตาราง
ทีมนึงเหมือนกัน ฤดูกาล 1995–96 คือหายนะที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน ไกเซอร์สเลาเทิร์น ตกชั้นจากบุนเดสลีกา
แต่ถึงอย่่างไรก็ดี พวกเขากลับคว้าถ้วยเดเอฟเบ โพคาล มาครองได้เป็นรางวัลปลอบใจเสียอย่างนั้น
มันคือฤดูกาลเดียวกับที่ ออตโต้ เรห์ฮาเกล มีปัญหากับ บาเยิร์น มิวนิค พอดิบพอดีเลยครับ ยอดกุนซือหัวแข็งรายนี้สร้างชื่อในการคุมทีมด้วยการพา
แวร์เดอร์ เบรเมน กวาดแชมป์เป็นว่าเล่นในช่วงปลายยุค 80 ถึงต้นยุค 90 อาทิ แชมป์บุนเดสลีกา ,
เดเอฟเบ โพคาล และ เดเอฟเบ ซูเปอร์ คัพ อย่างละ 2 ครั้ง แถมยังพานกนางนวลคว้าแชมป์คัพ
วินเนอร์ส คัพ ตอนปี 1992 ได้อีกด้วย นั่นจึงทำให้เสือใต้ดึงตัวเขามาคุมทีมในปี 1995
เรห์ฮาเกล เข้ามาคุม บาเยิร์น ได้แค่ปีเดียวก็โดนไล่ออก เนื่องจากความไม่ลงรอยในการทำงานกับบอร์ดบริหารหลายอย่าง
เขาเป็นกุนซือที่นิยมการรวบอำนาจไว้ในมือแบบเบ็ดเสร็จ แต่อย่างที่รู้กันว่าในทีม บาเยิร์น นั้นพวกเขาคือองค์กรที่ทำงานกันเป็นระบบ มีขั้นมีตอน
โดยเขาถูกเชิญออกก่อนจะถึงเกมนัดชิง ยูฟ่า คัพ แค่ 4 วันเท่านั้น
เมื่อ ไกเซอร์ฯ ตกชั้น พวกเขาเลยสบโอกาสในการชวน เรห์ฮาเกล มาทำงานด้วย
เนื่องจากในอดีตนั้นเขาก็เคยเป็นนักเตะของทีมมาอย่างยาวนานถึง 7 ปี มีความผูกพันธ์และรู้จักสโมสรเป็นอย่างดี
เรห์ฮาเกล พาปีศาจแดงแห่งเบตเซ่นเบิร์กเลื่อนชั้นได้ภายในฤดูกาลเดียวด้วยการเป็นแชมป์ลีกา 2 เหนือ โวล์ฟสบวร์ก
และ แฮร์ธ่า 10 คะแนน โดยมีดาวยิงประจำทีมในตอนนั้นคือ พาเวล คูก้า กับ โอลาฟ มาร์แชลล์ ที่ยิงในลีกรวมกันไป 24 ประตู
เมื่อเลื่อนชั้นขึ้นมาในฤดูกาล1997–98
ไกเซอร์ฯ เสริมทัพด้วยการดึงตัว ชิริอาโก้ สฟอร์ซ่า อดีตดาวเด่นของทีมที่ย้ายไปอยู่ บาเยิร์น
กับ อินเตอร์ ในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา โดย สฟอร์ซ่า นั้นเคยร่วมงานกับ เรห์ฮาเกล อยู่ 1 ปีที่ บาเยิร์น
ต่อจาก สฟอร์ซ่า ก็เป็น มาเรียน ฮิสตรอฟ กองกลางจากทีมเลฟสกี้ โซเฟีย
และอีกคนที่เสริมทัพแล้วกลายมาเป็นตัวหลักของทีมก็คือ อันเดรียส บุค กองกลางวัย 31 ปีจาก สตุ๊ตการ์ท
เรห์ฮาเกล เลือกใช้ระบบ 3–5–2 เป็นแท็กติกหลักในการเล่นครับ แต่ก็มีการปรับมาเป็น 4–4–2
แบบมีสวีปเปอร์อยู่ตัวท้ายสุดถึง 6 เกม และเคยใช้ 5–3–2 ในบอลถ้วยอยู่ 1 นัด
ไกเซอร์ฯ เปิดฤดูกาลด้วยการสร้่างเซอร์ไพรส์เฉือนชนะ บาเยิร์น ถึงรัง 1–0 และเมื่อถึงเกมนัดที่ 4 ของฤดูกาล พวกเขาขี้นนำจ่าฝูงของลีก
และยิงยาวไปจนจบฤดูกาลอย่างยอดเยี่ยม โดยเคยมีช่วงที่คะแนนทิ้งห่างจากอันดับ 2 ไกลถึง 7 คะแนน แถมยังเอาชนะเสือใต้ได้ทั้งเหย้าและเยือนอีกต่างหาก
ทุกอย่างในตอนนั้นมันลงตัวไปหมด นักเตะส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุที่กำลังพีค ค่าเฉลี่ยทีมอยู่ตรงอายุประมาณ 28–30 ปี,
กุนซือกระหายการพิสูจน์ตัวเอง นักเตะส่วนใหญ่ไม่ใช่สตาร์ดังจึงน้อมรับทำตามแท็กติกอย่างเคร่งครัด,
ช่องว่างของแต่ละทีมในลีกยังไม่กว้่างเท่าปัจจุบัน ทั้งหมดล้วนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ไกเซอร์สเลาเทิร์น เป็น Bundesliga champion ปีนั้น
สฟอร์ซ่า เป็นหัวใจหลักของทีมชุดนี้ เขาเป็นทั้งกัปตันทีม, คนเล่นลูกนิ่ง และเป็นศูนย์กลางในการคุมจังหวะ
โดยเขายิงได้ 3 ประตู 9 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นท็อปของทีมในเรื่องการจ่ายบอลเลยทีเดียว
แดนหน้า โอลาฟ มาร์แชลล์ ระเบิดฟอร์มที่ดีที่สุดในอาชีพการค้าแข้ง เขาสลุตตาข่ายให้ทีมไป 21 ประตูจาก 24 นัดในลีก
เป็นรองดาวซัลโวบุนเดสลีกาปีนั้น โดยยิงน้อยกว่า อูล์ฟ เคียร์สเท่น แค่ลูกเดียว
ดาวเด่นคนอื่นในทีมก็ยังมี ราตินโญ่ กองกลางชาวบราซิลที่ยิง 4 แอสซิสต์ 5, มี พาเวล คูก้า ยิง 5 แอสซิสต์ 2,
และยังมีตัวเก๋าอย่าง อันเดรียส เบรห์เม่ ในม้านั่งสำรองอีกคน ที่ถึงแม้จะไม่ค่อยได้ลงแต่ก็เป็นพี่ใหญ่ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์มากมายคอยช่วยกระตุ้นทีม
อ้อ! ในทีมชุดนี้ยังมี มิชาเอล บัลลัค ด้วยนะครับ ตอนนั้นเขายังเป็นแค่ดาวรุ่งที่เล่นได้ทั้งกองกลางและกองหลัง
ซึ่ง เรห์ฮาเกล ส่งลงสนามมากถึง 18 นัดในทุกรายการ และส่งประเดิมตัวจริงเกมแรกตอนเดือนมีนาคมปี 1998 โดยมีคู่แข่งคือ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อีกด้วย
ไกเซอร์ฯ ประกาศศักดาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์ได้อย่างยิ่งใหญ่ ภาพจำของผมในตอนนั้นคือมีช่อง 3
ที่ถ่ายทอดสดบอลจากเมืองเบียร์ มีอานิกร มีอาบิ๊กจ๊ะ เป็นคนบรรยายเกม
ภาพไฮไลต์สั้น ๆ จากข่าวทีวีในวันที่คว้าแชมป์นั้น สีแดงของแฟนบอลรอบสนามเป็นภาพที่น่าขนลุก
พวกเขาฟื้นจากความตายลุกขึ้นมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดภายในระยะเวลาแค่ปีเดียว มันคือข่าวใหญ่ในตอนนั้น
เป็นเทพนิยายที่แฟนบอลปีศาจแดงแห่งเบตเซ่นเบิร์กเล่าให้ลูกให้หลานฟังได้ไม่มีเบื่อ
ผ่านมาเกือบ 23 ปีแล้วนะครับจากวันชื่นคืนสุขวันนั้นของ ไกเซอร์ฯ
ปัจจุบัน อดีตทีมแชมป์บุนเดสลีกาทีมนี้ร่วงลงไปไกลถึงลีกา 3, เคยได้รับความช่วยเหลือจาก บาเยิร์น มิวนิค ด้วยการเตะเกมนัดพิเศษ
โดยพี่เสือมอบเงินจากค่าตั๋วในเกมนั้นให้พวกเขาทั้งหมด และเคยประสบปัญหาการเงินหนักหน่วงจนต้องปรับโครงสร้่างหนี้ครั้งใหญ่ในปีที่แล้ว
ไกเซอร์ฯ ตอนนี้อยู่อันดับ 10 ในลีกา 3 เยอรมนี แน่นอนว่าคงอีกนานกว่าพวกเขาจะคัมแบ็คได้อีกครั้งที่บุนเดสลีกา
และคงอีกนานเลยเช่นกัน กว่าที่จะมีทีมในเยอรมนีทีมไหน ทำเรื่องเหลือเชื่อแบบที่พวกเขาเคยทำได้เมื่อ 23 ปีก่อน
มันคือเทพนิยายแห่งบุนเดสลีกา
คือความโรแมนติคของฟุตบอล ที่ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ และหาได้ยากมากจริง ๆ
เป็นไงกันบ้างกับ Bundesliga champion สามารถอ่านข่าวกีฬามัน ๆ ได้ที่ Ambbet ขอบคุณครับ